ส มา ร์ ท โฟน ราคา ไม่ เกิน 6000 ปัจจุบันมีมือถือหลายยี่ห้อหลายรุ่นที่มีราคาประหยัด แต่สามารถใช้งานได้หลากหลาย มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป ทั้งเป็นอุปกรณ์สื่อสาร ใช้เล่น Social Media ใช้ถ่ายรูป เล่นเกม รวมไปถึงเป็นอุปกรณ์ทางการเงินยุคใหม่ได้ ขึ้นอยู่กับสเปกต่าง ๆ ที่ประกอบภายในเครื่อง ซึ่งถือว่าช่วยทำให้คุณใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและตอบโจทย์คนที่มีงบจำกัดด้วยบทความนี้เรามีวิธีการเลือกโทรศัพท์มือถือมือถือในงบไม่เกิน 6000 บาท ให้เหมาะกับการใช้งานสำหรับคนที่มีงบน้อย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟน และยังมี 10 อันดับ มือถือ ราคาไม่เกิน 6000 บาท รุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ดังอย่าง SAMSUNG, Xiaomi, oppo, realme, infinix และ vivo มาแนะนำให้อีกด้วย
วิธีการเลือกมือถือ ส มา ร์ ท โฟน ราคา ไม่ เกิน 6000
ส มา ร์ ท โฟน ราคา ไม่ เกิน 6000 ถึงแม้ว่าภายนอกของโทรศัพท์มือถือนั้นจะมีความคล้ายคลึงกัน หรือแม้แต่จะทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการเหมือน ๆ กัน ทว่า องค์ประกอบภายในแต่ละเครื่องก็มีความแตกต่างที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราสามารถเลือก มือถือ ราคาไม่เกิน 6000 บาท ได้ด้วยหัวข้อต่อไปนี้
1.สำหรับใช้งานทั่วไป เลือกมือถือรุ่นที่มี RAM 6GB และ ROM 64GB ขึ้นไป ชิปเซ็ตระดับต้นถึงกลาง กล้องละเอียดสูง
ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการมองหามือถือสำหรับใช้งานเอง ก็จะรู้ความต้องการและรู้ถึงความจำเป็นหรือไลฟ์สไตล์ในการใช้งานอยู่แล้ว ทำให้การเลือกมือถือไม่ได้ยากจนเกินไป ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากคำแนะนำดังต่อไปนี้ครับ
เลือกรุ่นที่มี RAM มากกว่า 6GB และ ROM 64GB ขึ้นไป ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล
RAM คือ หน่วยความจำที่ตัวเครื่องจะใช้ในการประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด Application หรือการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ หากเครื่องมี RAM น้อย ก็หมายความว่าการจะใช้งานแบบ Multi-tasking หรือการเปิด Application ทิ้งไว้เยอะ ๆ RAM ที่มีจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเก็บชุดคำสั่งทั้งหมดจาก CPU และส่งผลทำให้เครื่องช้าลงได้ ซึ่งสำหรับสมาร์ตโฟนในงบประมาณไม่เกิน 6,000 บาท การเลือกรุ่นที่มี RAM มากกว่า 6GB ก็ถือว่าใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ไม่มีหน่วงแล้ว
ส่วน ROM หรือ Storage คือความจุของตัวเครื่องทำหน้าที่ให้การเขียน การอ่านบันทึกข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงยังทำหน้าที่จัดเก็บ Operation System และ Application ต่าง ๆ ที่เราโหลดมาไว้ภายในตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งสำหรับการเลือกมือถือในงบไม่เกิน 6000 บาทนี้เราขอแนะนำให้พิจารณา 2 แง่มุม คือ
・ความเร็วในการอ่าน การเขียน เหมาะกับการใช้งานหรือไม่ เช่น ต้องเล่นเกมที่ต้องโหลดกราฟิกมาก ๆ หรือไม่? ต้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่เป็นไฟล์ขนาดใหญ่บ่อยหรือไม่? เป็นต้น ซึ่งหากผู้ใช้งานมักใช้งานมือถือในกรณีดังกล่าว ขอแนะนำว่าควรเลือกเวอร์ชันเทคโนโลยีในการอ่าน – เขียนไฟล์ที่ทันสมัย ซึ่งอาจจะเป็น UFS 2.2 ขึ้นไป
・ความจุที่เพียงพอต่อการใช้งาน อาจจะแบ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้งานทั่วไป ไม่ได้โหลดอะไรเก็บไว้ในเครื่องมากนัก อาจจะมีไฟล์ภาพถ่ายสำหรับทำงานหรือไฟล์เพลงเอาไว้เปิดฟังนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ ROM เยอะ ขนาด ROM 64GB ขึ้นไปก็ถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าเป็นกลุ่มคนที่ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอเยอะ ๆ หรือชอบโหลดหนังจาก App Streaming เอาไว้ดูแบบไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ขอแนะนำให้เลือก ROM ที่มีความจุ 128GB ขึ้นไป
แนะนำชิปเซ็ตระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง Snapdragon 4 Gen 1, Snapdragon 6 Gen 1, Helio P35 และ Helio G99
การเลือกนั้นไม่ว่าจะงบประมาณเท่าไหร่ ก็ต้องพิจารณาถึงเรื่องของชิปเซ็ต (Chipset) หรือ CPU ซึ่งเป็นหัวใจของสมาร์ตโฟนทุกเครื่องเลยก็ว่าได้ เพราะมีหน้าที่ประมวลผลคำสั่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในตัวเครื่อง ทั้งที่ตัวผู้ใช้งานเป็นคนสั่งและโปรแกรมที่ Run Background อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ยิ่ง ชิปเซ็ตมีประสิทธิภาพสูง ก็จะสามารถประมวลการใช้งานที่ซับซ้อนได้รวดเร็วขึ้นนั่นเองสำหรับชิปเซ็ตที่จะอยู่ในสมาร์ตโฟนในงบราคาไม่เกิน 6,000 บาท ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงนัก โดยจะถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน สามารถจะใช้งานในด้าน Entertainment ได้ ในแง่ของการรับชม Content ต่าง ๆ จะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าหากเป็นการเล่นเกมแล้วล่ะก็ อาจจะไม่สามารถปรับ Setting กราฟิกของเกมได้สูงมากนักส่วนชิปเซ็ตที่เราจะเจอได้ในสมาร์ตโฟนช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาท จะเป็นระดับเริ่มต้น ไปจนถึงระดับกลาง ได้แก่ Snapdragon 4 Gen 1 และ Snapdragon 6 Gen 1 แต่หากเป็นจากทาง Mediatek ก็จะเป็น Helio P35 และ Helio G99 เป็นต้น ซึ่งก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป
สำหรับสายถ่ายรูป ขอแนะนำรุ่น Xiaomi Redmi 12 และ realme 9i ที่กล้องมีความละเอียดสูง
เรื่องของกล้องถ่ายภาพในมือถือราคาไม่เกิน 6,000 บาท ถือว่าเป็นโชคดีของผู้บริโภคที่การแข่งขันในเรื่องนี้ก็สูงไม่แพ้กัน หลาย ๆ แบรนด์ได้หยิบ Sensor กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง ขั้นต่ำ 50MP เข้ามาใส่ในรุ่นเริ่มต้นกันแล้ว แต่อาจจะมีความหลากหลายของระยะกล้องไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นกล้องหลังตัวเดียว ไม่มีเลนส์ Ultra Wide Angle หรือเลนส์ Telephoto ให้ แต่อาจจะได้มาเป็นเลนส์ Macro หรือเลนส์ละลายฉากหลังเข้ามาแทน ส่วนกล้องหน้าจะอยู่ที่ความละเอียดไม่เกิน 12MP ต่ำสุดคือ 5MP ซึ่งเพียงพอต่อการวิดีโอคอลหรือถ่ายภาพทั่วไป แต่อาจจะยังคาดหวังผลลัพธ์ไม่ได้ดีมากนัก ส มา ร์ ท โฟน ราคา ไม่ เกิน 6000