เคส iphone ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทเป็นไอเทมสำคัญในชีวิตประจำวันที่ทุกคนต้องมี โดยเฉพาะ iPhone หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจซื้อมาใช้งาน แม้ว่าจะมีราคาสูง ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงนั้น ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น เคส iPhone จึงเป็นอีกหนี่งอุปกรณ์เสริมสำคัญที่หลายคนนิยมใช้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการตกหล่น การกระแทก หรือการเสียดสีกับของในกระเป๋าถือ รวมทั้งป้องกันตัวเครื่องจากสิ่งสกปรกและรอยขีดข่วนบทความนี้เรามีวิธีการเลือกเคส iPhone ให้เหมาะกับการใช้มากที่สุด สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ประกอบกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟน และยังมี 10 อันดับ เคส iPhone จากหลากหลายยี่ห้อ ที่มาพร้อมคุณสมบัติกันกระแทก วัสดุที่แข็งแรง รองรับการชาร์ตไร้สายมาแนะนำเพิ่มเติมอีกด้วย
วิธีการเลือก เคส iphone
เคส iphone นั้นมีด้วยกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเคสกันกระแทก เคสแบบฝาพับ หรือเคสแบบทั่วไปเน้นเพิ่มความสวยงาม ซึ่งการเลือกเคส iPhone ให้ตอบโจทย์การใช้งาน ควรพิจารณาเลือกซื้อตามปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.เลือกจากรูปแบบของเคส iPhone
เมื่อคุณต้องการเลือกซื้อเคส iPhone สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ รูปแบบและคุณสมบัติของการปกป้อง ว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใดและสอดคล้องกับลักษณะการใช้งานของเราหรือไม่ ในส่วนนี้ เราจะมาแนะนำเคสแต่ละประเภทตามรูปแบบการปกป้องกันครับ
เคสกันกระแทก (Bumper Case) : ป้องกันสูงสุด สำหรับคนที่ทำตกบ่อย
เคสกันกระแทกหรือ Bumper เป็นเคสที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ iPhone ค่อนข้างมาก โดยถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องขอบมุมทั้ง 4 ด้านของโทรศัพท์แต่ยังคงไว้ซึ่งภาพลักษณ์อันเป็นจุดเด่นของ iPhone กล่าวคือ จะไม่มีส่วนที่ปิดทึบด้านหน้าหรือด้านหลังโทรศัพท์ ให้คุณอวดความสวยงามที่แท้จริงของตัวโทรศัพท์ได้ โดยเคสประเภทนี้มีรูปแบบเบสิกที่สุดในบรรดาเคสทั้งหมด ส่วนใหญ่ทำจากซิลิโคนหรือโลหะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการเคสเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนบริเวณขอบโทรศัพท์เท่านั้นครับ
เคสฝาพับ : ใช้งานสะดวก มีช่องใส่บัตร หรือธนบัตร
เคสประเภทนี้มีต้นแบบมาจากสมุดโน้ต คือมีปกหน้า-หลังช่วยปกป้อง iPhone ได้รอบด้านลดโอกาสหน้าจอมือถือแตกเมื่อทำหล่น ใช้งานได้ทั้งชายและหญิง ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเปิดมาด้านใน ส่วนที่เป็นเคสจะอยู่ทางปกขวา และปกด้านซ้ายจะทำเป็นที่ใส่ของ เช่น ธนบัตร บัตรเอทีเอ็ม/เครดิต นามบัตร เป็นต้น บางรุ่นทำเป็นกระจกเพื่อตอบโจทย์สาว ๆ ที่มักตรวจเช็กความเรียบร้อยของใบหน้าอยู่บ่อยครั้ง ไม่จำเป็นต้องพกกระจกเพิ่มให้หนักกระเป๋าเลยครับ
ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถใช้ใส่บัตรรถไฟฟ้าหรือคีย์การ์ดเข้าออกประตูหอพักได้อีกด้วย ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการใช้ชีวิตประจำวันอีกหนึ่งระดับเลย อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้มีข้อควรระวัง คือ ถ้าหากคุณใส่การ์ดจำนวนมากเกินไปหรือเลือกเคสที่มีสายรัดแม่เหล็กและทำจากวัสดุหนา ๆ มาใช้ อาจทำให้เซ็นเซอร์บริเวณที่ใช้แตะบัตรสับสนจนไม่สามารถตอบสนองผ่านเคสได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ลองตรวจสอบวัสดุ ความหนาและสายรัดแม่เหล็กของเคสประเภทนี้กับผู้ขายให้ดีก่อนนะครับ
เคสทั่วไป : ไม่เทอะทะ สำหรับใช้งานทั่วไป
เคสประเภทนี้มีจุดเด่นชัดเจน คือ มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อทำตกได้ มีน้ำหนักเบา สวมครอบ iPhone ทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้อย่างครอบคลุม และไม่หนามากจนเพิ่มขนาดของมือถือ ซึ่งเป็นข้อดีที่คนมือเล็กมักจะชื่นชอบ เพราะบางประเภทเมื่อสวมไปแล้วทำให้โทรศัพท์ใหญ่และหนาขึ้นจนเผลอทำหล่นหลายครั้งเนื่องจากถือได้ไม่ถนัดมือ เคสแบบยืดหยุ่นนั้นมีวางขายอยู่ทั่วไปในราคาไม่แพง และยังมีลวดลายสีสันหลากหลายให้คุณเลือกซื้อได้ตามความชอบส่วนบุคคล เหมาะสำหรับผู้ต้องการเคสที่ไม่เทอะทะ ให้การปกป้องขั้นพื้นฐานครับ
เคสแบบที่มีแบตเตอรี่สำรองพร้อมชาร์จได้ในตัว : สำหรับเกมเมอร์ หรือคนที่ใช้งานมือถือตลอดเวลา
เคสประเภทนี้มีการบรรจุแบตเตอรี่เข้าไปอยู่ส่วนฐานของเคส มีหัวต่อเสียบเข้ากับ iPhone ของคุณได้เลยโดยตรง สำหรับคนที่ใช้งานโทรศัพท์หนัก ๆ เช่น ชอบเล่นเกม ดูหนัง ดูซีรีส์เรื่องยาวที่เบรกไม่ได้ หรือคนที่ขี้เกียจพกแบตสำรองเพราะหนักกระเป๋า เราขอแนะนำให้เลือกเคสแบบนี้มาไว้ติดกระเป๋าเลยครับ เพื่อที่คุณจะได้เล่นเกมหรือดูหนังได้ต่อเนื่องยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางคันหรือพกแบตสำรองเพิ่มเติม แต่ก็ต้องยอมแลกกับน้ำหนักของมือถือที่มากขึ้นนะครับ
เลือกจากวัสดุที่นำมาผลิตเคส iPhone
เคส iphone โดยทั่วไปแล้วเคส iPhone จะผลิตจากวัสดุ 2 ลักษณะด้วยกัน คือวัสดุแบบแข็ง (Hard Case) ที่จะเป็นวัสดุจำพวก TPE (Thermoplastic Elastomers) หรือ พอลิโพรไพลีน (Polypropylene) และวัสดุอ่อน (Soft Case) ที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูงครับ
- เคส iPhone แบบแข็ง (Hard Case) ส่วนใหญ่จะผลิตจาก TPE หรือ PP หรืออาจใช้วัสดุทั้งสองชนิดผสมเข้าด้วยกัน แล้วก่อขึ้นรูปให้มีโครงสร้างแข็งแรง แม้ว่าคุณจะทำตกก็ไม่สะเทือน โดยเป็นเคสที่ทำหน้าที่ปกป้องโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย เป็นรูปแบบเคสที่เหมาะกับคนที่ต้องการปกป้อง iPhone เป็นพิเศษ และคนที่ทำงานนอกสถานที่ รวมไปถึงคนที่ชอบผจญภัยโลดโผนหรือคนที่พลั้งพลาดทำ iPhone หล่นเป็นประจำครับ
- เคส iPhone แบบอ่อน (Soft Case) จะเป็นเคสที่มีความยืดหยุ่นสูงและน้ำหนักเบา โดยส่วนใหญ่แล้วผลิตจากซิลิโคนที่มีคุณสมบัติในเรื่องของความยืดหยุ่นนั่นเอง อีกทั้งตัวเคสจะมีลักษณะโปร่งใส ช่วยทำให้เห็นตัวเครื่อง iPhone ได้ชัดเจนกว่าเคส iPhone แบบแข็ง แต่ก็มีหลายรุ่นที่มีการผสมสีเข้าไปเพื่อทำให้ตัวเคสมีความโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งเคสชนิดนี้ส่วนใหญ่จะป้องกันการกระแทกได้ไม่ดีเท่าไรนัก หรือถ้าจะให้ดีควรเลือกเคส iPhone แบบอ่อน ที่มาพร้อมกับ Bumpers บริเวณมุมทั้ง 4 ด้านของ iPhone ที่จะช่วยป้องกันได้ดีในระดับหนึ่งครับ